Options คือ ตราสารสิทธิที่ให้สิทธิกับผู้ซื้อหรือผู้ถือตราสารสิทธิ (ผู้ถือ Options) ในการซื้อหรือขายสินทรัพย์อ้างอิงในอนาคตภายในวันหมดอายุของตราสารสิทธิในราคาที่ตกลงกันไว้ก่อนหน้าเมื่อตอนที่ทำสัญญา โดยผู้ซื้อ Options จะต้องจ่ายค่า Premium ให้กับผู้ขาย Options เป็นการแลกเปลี่ยน
หลักการทำงานของ Options จะคล้ายกับ Future Contract แต่สิ่งที่ทำให้สัญญา Options แตกต่างออกไปคือสามารถเลือกได้ว่าจะใช้สิทธิหรือไม่ตามชื่อ “ตราสารสิทธิ” ในขณะที่ Future ผู้ทำสัญญาจะต้องส่งมอบตามราคาที่กำหนดเท่านั้น
โดย Options สามารถแบ่งออกได้เป็น 2 ประเภท คือ Call Option และ Put Option
- Call Option คือ สิทธิในการซื้อ
- Put Option คือ สิทธิในการขาย
ตัวอย่างเช่น A ต้องการแลกเงินดอลลาร์สหรัฐเป็นเงินบาทจำนวน 10,000 ดอลลาร์สหรัฐ ในอีก 6 เดือนข้างหน้าด้วยอัตราแลกเปลี่ยน $1 ต่อ ฿33 โดยสัญญา Options มีค่าธรรมเนียม (Premium) ทั้งหมด 100 ดอลลาร์สหรัฐ เมื่อครบกำหนดเวลาตามสัญญา Options ใน 6 เดือนข้างหน้าสิ่งที่จะเกิดขึ้นมี 2 กรณี คือ
ถ้าเงินบาทแข็งค่าขึ้นเป็น 1 ดอลลาร์สหรัฐต่อ 31 บาท ในกรณีนี้ A จะใช้สิทธิ Options แลกเงินด้วยอัตราแลกเปลี่ยน 1 ดอลลาร์สหรัฐต่อ 33 บาท ทำให้ได้เงิน 330,000 บาท (ไม่หักค่าธรรมเนียม) มากกว่าการแลกเงินด้วยอัตราแลกเปลี่ยนตามปกติ
ในทางกลับกันถ้าเงินบาทอ่อนค่าลงทำให้อัตราแลกเปลี่ยนกลายเป็น 1 ดอลลาร์สหรัฐต่อ 35 บาท ในกรณีนี้ A ก็จะสามารถเลือกที่จะไม่ใช้สิทธิของ Options เพราะแลกด้วยอัตราแลกเปลี่ยนปัจจุบัน A จะได้เงินบาทมากกว่าอยู่แล้ว ในกรณีนี้ A จะเสียค่าธรรมเนียมไปฟรี ๆ แต่ก็ได้กำไรจากอัตราแลกเปลี่ยนที่เพิ่มขึ้นอยู่ดี
จากที่อธิบายทั้งหมดจะเห็นว่าจริง ๆ แล้ว Options คือ สิ่งที่มีหลักการทำงานคล้ายกับประกันรถยนต์ ที่คุณจะต้องจ่ายค่าธรรมเนียมเพื่อที่จะได้สิทธิในการเอาประกันเมื่อรถเกิดอุบัติเหตุ แต่ถ้าตลอดสัญญาประกันไม่เกิดอุบัติเหตุบริษัทประกันก็จะได้ค่าธรรมเนียมไปฟรี ๆ นั่นเอง
- เงื่อนไขอัตราแลกเปลี่ยน 1 ดอลลาร์สหรัฐ ต่อ 33 บาท เรียกว่า Strike Price
- การเลือกใช้สิทธิของ Option เรียกว่า การ Exercise
- ค่าธรรมเนียมของs Option เรียกว่า ค่า Premium
Call Options
Call Option คือ สิทธิในการซื้อสินทรัพย์อ้างอิง (Underlying Asset) ในอนาคตด้วยราคาที่ตกลงไว้ในสัญญา Call Option
จากตัวอย่างด้านบน Option ในตัวอย่างคือ Call Option ที่ A ต้องการแลกเงินดอลลาร์สหรัฐเป็นเงินบาทในอีก 6 เดือนข้างหน้า หรือก็คือการซื้อเงินสกุลบาทด้วยเงินดอลลาร์สหรัฐนั่นเอง
Put Options
Put Option คือ สิทธิในการขายสินทรัพย์อ้างอิง (Underlying Asset) ในอนาคตด้วยราคาที่ตกลงไว้ในสัญญา Put Option
ตัวอย่างเช่น C ทำสัญญา Option ในการขายเงินตราต่างประเทศ (Currency Call Options) โดยสัญญาระบุว่า C สามารถขายเงินดอลลาร์สหรัฐได้ในราคา 33 บาทต่อ 1 ดอลลาร์สหรัฐ จำนวน 1,000 ดอลลาร์
ข้อมูลอ้างอิงจาก: CME Group, GreedisGoods