• Post category:Economics

เงินอ่อนค่า เงินแข็งค่า คืออะไร?

เงินแข็งค่า เงินอ่อนค่า คือ การเปลี่ยนแปลงของอัตราแลกเปลี่ยนเมื่อนำเงิน 2 สกุลมาเปรียบเทียบกัน ซึ่งการที่เงินสกุลหนึ่งมีค่าเพิ่มขึ้นเมื่อเทียบกับเงินอีกสกุลหนึ่งหรือแลกเงินอีกสกุลได้มากขึ้นเรียกว่า “เงินแข็งค่า (Appreciation)” และการที่เงินสกุลหนึ่งมีค่าลดลงหรือแลกเงินอีกสกุลได้น้อยลงเรียกว่า “เงินอ่อนค่า (Depreciation)”

ดังนั้น เมื่อนำเงิน 2 สกุลมาเทียบอัตราแลกเปลี่ยนระหว่างกันก็จะต้องมีเงินสกุลหนึ่งที่แข็งค่าและเงินอีกสกุลหนึ่งอ่อนค่าเสมอ

วิธีทำความเข้าใจเงินอ่อนค่าและเงินแข็งค่าที่ง่ายที่สุดคือการเปรียบเทียบเงินอีกสกุลหนึ่งเป็นสินค้า ถ้าหากต้องการรู้ว่าเงินบาทแข็งค่าหรืออ่อนค่าเมื่อเทียบกับเงินดอลลาร์สหรัฐฯ ให้มองว่าเงินดอลลาร์สหรัฐฯ คือสินค้าชนิดหนึ่ง

  • ถ้าหากเงินบาทเท่าเดิมซื้อสินค้า (ดอลลาร์สหรัฐฯ) ได้มากขึ้น หมายความว่า เงินบาทแข็งค่า
  • แต่ถ้าเงินบาทเท่าเดิมซื้อสินค้า (ดอลลาร์สหรัฐฯ) ได้น้อยลง หมายความว่า เงินบาทอ่อนค่า

เงินบาทอ่อนค่า คืออะไร?

เงินบาทอ่อนค่า คือ การที่เงินบาทมีค่าลดลงหรือสามารถแลกเงินอีกสกุลหนึ่งได้น้อยลงเมื่อเทียบกับช่วงเวลาก่อนหน้า

ตัวอย่างเช่น จากเดิมเงิน 33 บาทแลกได้ 1 ดอลลาร์สหรัฐฯ แต่ปัจจุบันต้องใช้เงินบาทถึง 36 บาทเพื่อแลกเป็น 1 ดอลลาร์สหรัฐฯ หมายความว่าเงินบาทอ่อนค่าเมื่อเทียบกับเงินดอลลาร์สหรัฐฯ

โดยการที่เงินบาทอ่อนค่ามีสาเหตุมาจากปริมาณความต้องการเงินบาทลดลง (ต้องการแลกเงินบาทเป็นสกุลเงินอื่นมากกว่าต้องการแลกเงินสกุลอื่นเป็นเงินบาท) ซึ่งอาจเกิดขึ้นได้จากการขาดดุลการค้า (นำเข้ามากกว่าส่งออก), การย้ายเงินทุนของนักลงทุนออกจากประเทศไทย, และจากการที่เงินอีกสกุลแข็งค่า

Currency Depreciation THB Weak StrongCurrency Depreciation THB Weak StrongCurrency Depreciation THB Weak Strong
กราฟแสดงอัตราแลกเปลี่ยนระหว่างเงินดอลลาร์สหรัฐฯ (USD) กับเงินบาท (THB)

เงินบาทอ่อนค่า ใครได้ประโยชน์

ผู้ที่ได้ประโยชน์จากการที่เงินบาทแข็งค่า คือ ผู้ที่ต้องการแลกเงินสกุลอื่นเป็นเงินบาท เช่น ผู้ส่งออกสินค้าจากไทย ลงทุนที่ขนเงินเข้ามาลงทุนในไทย นักท่องเที่ยวที่เข้ามาเที่ยวไทย และผู้ที่กู้เงินจากต่างประเทศ เป็นต้น

ตัวอย่างเช่น บริษัท A ส่งออกสินค้าจากประเทศไทยไปสหรัฐอเมริกา ถ้าสินค้าราคาชิ้นละ 32 บาท ในขณะที่อัตราแลกเปลี่ยนอยู่ที่ 32 บาทต่อ 1 ดอลลาร์สหรัฐฯ การซื้อสินค้า 1 ชิ้นจะใช้เงิน 1 ดอลลาร์สหรัฐฯ พอดี

เมื่อเงินบาทอ่อนค่าลงเหลือ 36 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐฯ ผู้นำเข้าชาวสหรัฐฯ จะซื้อสินค้าได้ 1.125 ชิ้นต่อเงิน 1 ดอลลาร์สหรัฐฯ หรือก็คือซื้อสินค้า 1 ชิ้นด้วยเงิน 1 ดอลลาร์สหรัฐฯ แล้วยังเหลือเงินอีก 4 บาท

ในทางกลับกันผู้ที่เสียประโยชน์จากการที่เงินบาทแข็งค่าคือผู้ที่ต้องแลกเงินบาทเป็นเงินสกุลอื่น (หรือก็คือผู้ที่เคยได้ประโยชน์จากเงินบาทแข็งค่า) ซึ่งจะแลกเงินบาทเป็นเงินสกุลอื่นได้น้อยลง


เงินบาทแข็งค่า คืออะไร?

เงินบาทแข็งค่า คือ การที่เงินบาทจำนวนเท่าเดิมสามารถแลกเงินอีกสกุลหนึ่งได้มากขึ้นเมื่อเทียบกับช่วงเวลาก่อนหน้า

ตัวอย่างเช่น จากเดิมต้องใช้ 46 บาทเพื่อแลกเงิน 1 ปอนด์สเตอร์ลิง แต่ปัจจุบันใช้เงินเพียง 43 บาทก็สามารถแลกเงิน 1 ปอนด์สเตอร์ลิงได้แล้ว หมายความว่าเงินบาทแข็งค่าเมื่อเทียบกับเงินปอนด์สเตอร์ลิง

โดยการที่เงินบาทแข็งค่ามีสาเหตุมาจากปริมาณความต้องการเงินบาทเพิ่มขึ้น (ต้องการแลกเงินอื่นเป็นสกุลเงินบาท มากกว่าต้องการแลกเงินบาทเป็นสกุลเงินอื่น) ซึ่งอาจเกิดขึ้นได้จากการเกินดุลการค้า (ส่งออกมากกว่านำเข้า), การย้ายเงินทุนเข้ามาลงทุนในไทยของนักลงทุนต่างประเทศ, และจากการที่เงินอีกสกุลอ่อนค่า

Currency Appreciation Depreciation THB Weak Strong
กราฟแสดงอัตราแลกเปลี่ยนระหว่างเงินปอนด์สเตอร์ลิง (GBP) กับเงินบาท (THB)

เงินบาทแข็งค่า ใครได้ประโยชน์

ผู้ที่ได้ประโยชน์จากการที่เงินบาทแข็งค่า คือ ผู้ที่ต้องการแลกเงินบาทเป็นเงินอีกสกุลหนึ่ง เช่น ผู้นำเข้าสินค้าจากต่างประเทศ ชาวไทยที่เที่ยวต่างประเทศ และผู้ที่ต้องจ่ายหนี้เป็นเงินสกุลต่างประเทศ เป็นต้น

ตัวอย่างเช่น บริษัท B กู้เงินจากธนาคารอังกฤษ 10,000 ปอนด์สเตอร์ลิง โดยขณะนั้นอัตราแลกเปลี่ยนอยู่ที่ 46 บาทต่อ 1 ปอนด์สเตอร์ลิง นั่นหมายความว่าบริษัท B จะได้เงินจากการกู้ทั้งหมด 460,000 บาท

เมื่อครบกำหนดชำระหนี้เงินบาทแข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับเงินปอนด์สเตอร์ลิง ในอัตรา 42 บาทต่อ 1 ปอนด์สเตอร์ลิง ดังนั้นบริษัท B สามารถใช้เงินเพียง 420,000 บาทแลกเป็นเงิน 10,000 ปอนด์สเตอร์ลิงเพื่อชำระหนี้ (ไม่รวมดอกเบี้ย) ได้ประโยชน์จากอัตราแลกเปลี่ยนทั้งหมด 40,000 บาท

ในทางกลับกันผู้ที่เสียประโยชน์จากการที่เงินบาทแข็งค่าคือผู้ที่ต้องการแลกเงินสกุลอื่นเป็นเงินบาท (หรือก็คือผู้ที่เคยได้ประโยชน์จากเงินบาทอ่อนค่า) ซึ่งจะต้องใช้เงินสกุลอื่นมากขึ้นเพื่อแลกเป็นเงินบาท


คำถามที่พบบ่อย

เงินบาทอ่อนค่า คืออะไร? และเกิดจากอะไร?

เงินบาทอ่อนค่า คือ การที่เงินบาทมีค่าลดลงหรือสามารถแลกเงินอีกสกุลหนึ่งได้น้อยลงเมื่อเทียบกับช่วงเวลาก่อนหน้า เนื่องจากความต้องการเงินบาทลดลง

เงินบาทแข็งค่า คืออะไร? และเกิดจากอะไร?

เงินบาทแข็งค่า คือ การที่เงินบาทจำนวนเท่าเดิมสามารถแลกเงินอีกสกุลหนึ่งได้มากขึ้นเมื่อเทียบกับช่วงเวลาก่อนหน้า เนื่องจากความต้องการเงินบาทเพิ่มขึ้น

เงินบาทอ่อนค่า ใครได้ประโยชน์?

ผู้ที่ได้ประโยชน์จากการที่เงินบาทแข็งค่า คือ ผู้ที่ต้องการแลกเงินบาทเป็นเงินอีกสกุลหนึ่ง เช่น ผู้นำเข้าสินค้าจากต่างประเทศ ชาวไทยที่เที่ยวต่างประเทศ และผู้ที่ต้องจ่ายหนี้เป็นเงินสกุลต่างประเทศ เป็นต้น

เงินบาทแข็งค่า ใครได้ประโยชน์?

ผู้ที่ได้ประโยชน์จากการที่เงินบาทแข็งค่า คือ ผู้ที่ต้องการแลกเงินบาทเป็นเงินอีกสกุลหนึ่ง เช่น ผู้นำเข้าสินค้าจากต่างประเทศ และผู้ที่ต้องจ่ายหนี้เป็นเงินสกุลต่างประเทศ

ข้อมูลอ้างอิงจาก: อัตราแลกเปลี่ยน GBP/THB จาก XE.com, อัตราแลกเปลี่ยน USD/THB จาก XE.com, GreedisGoods

Finvestory

บทความเศรษฐกิจ การเงิน การลงทุน ธุรกิจ และเศรษฐศาสตร์ ในโลกที่ทุกคนต่างลงทุน